นายวินิจ องค์เนกนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการผลิตเอทานอล ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงาน และติดตั้งเครื่องจักรจากฝรั่งเศสใกล้จะเสร็จแล้วคาดว่า จะทดลองเดินเครื่องผลิตในช่วงปลายปีและ เริ่มการผลิตได้ในต้นปี 2552 ด้วยกำลังการผลิตในเฟสแรกปีละ 40 ล้านลิตร และคาดว่าจะขยายกำลังการผลิตในเฟสต่อไปให้เต็ม กำลังการผลิตที่ปีละประมาณ 60 ล้านลิตรหรือ ประมาณวันละ 200,000 ลิตร

     ทั้งนี้โครงการผลิตเอทานอลดังกล่าว ได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ดำเนินการโดยบริษัทแม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัทผาแดงฯในสัดส่วน ถือหุ้นร้อยละ 35-บริษัทเพโทรกรีน ในเครือของกลุ่มน้ำตาลมิตรผล ร้อยละ 35 และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 30 ส่วนแนวโน้มของตลาดเอทานอล น่าจะไปได้ดี"เนื่องจากการคำนวณเบื้อนต้น ขณะเริ่มต้นโครงการราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ขณะนี้น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นไประหว่าง 80-100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลแล้ว และคิดว่า คงจะไม่ลดลงต่ำไปมากกว่านี้ ส่งผลทำให้ความต้องการเอทานอลซึ่งใช้เป็นพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ประกอบกับเอทานอลที่บริษัทผลิตออกมามีตลาดรองรับแน่นอนคือบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ทยออยล์อีกทีหนึ่ง วัตถุดิบที่จะนำมาผลิตเป็นเอทานอลนั้น จะใช้น้ำอ้อยในการผลิต 100% หากกำลังการผลิตเอทานอลวันละ 200,000 ลิตรจะต้องใช้พื้นที่ปลูกอ้อยประมาณ 60,000 ไร่

โดยปัจจุบันทางบริษัทแม่สอดพลังงานสะอาด ได้เข้าไปส่งเสริมการปลูกอ้อย ในพื้นที่แล้วประมาณ 30,000 ไร่ การใช้วัตถุดิบน้ำอ้อยนั้น จะไม่เอาไป ผูกติดกับระบบแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างชาวไร่กับโรงงาน 70:30 เหมือนกับระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย แต่บริษัทจะประกันการรับซื้ออ้อยใน ปีแรกไม่ต่ำกว่าตันละ 900 บาท สำหรับ ปีต่อไปจะอิงกับราคาอ้อยที่รัฐบาลประกาศโดยจะไม่ซื้อ อ้อยในราคาที่ต่ำกว่าและยืนยันว่า อ้อยที่ส่งเสริมการปลูก จะไม่ถูกลักลอบลงมาขายเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำตาล ื่องจากตลอดเส้นทางลง มาจาก อ.แม่สอด จะมีด่านตรวจสอบควบคุมการขนส่งสินค้าอยู่แล้ว ประกอบกับราคาขนส่งอ้อยจากแม่สอดค่อนข้างแพงตกตันละ 150 บาทั้งนั้นเมื่อหักรายได้จากการจำหน่ายอ้อยตามราคาประกาศของรัฐบาลแล้วจึงไม่คุ้มที่จะขนอ้อยส่งเข้ามายังโรงงานน้ำตาล"เหตุที่มี การรับประกันราคาอ้อย ปีแรกไม่ต่ำกว่าตันละ 900 บาทนั้น เนื่องจากการปลูกอ้อยจะมีต้นทุนสูงใน ปีแรก พอปีต่อมาต้นทุนก็จะถูกลงแล้ว ซึ่งโครงการเอทานอลนี้ นอกจากเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทแล้ว ส่วนหนึ่งยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ได้มีอาชีพมีรายได้มากกว่า ปลูกอ้อยและข้าวโพดด้วย" นายวินิจกล่าว

ที่มา : www.matichon.co.th /phachachart