เกษตรฯ ยังเดินหน้าแก้ไขปัญหาวิกฤติพลังงานของประเทศ เปิดพื้นที่นิคมอ้อย จ.กำแพงเพชรโชว์ผลงานดันผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ดึงหน่วยสนับสนุนการตลาด 4 องค์กรรับลูกผลผลิตของเกษตรกร

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอ้อยเป็นพลังงานทดแทนของกระทรวงเกษตรฯ โดยจะมีการปรับปรุงขยายพันธุ์อ้อยให้เพียงพอ และเหมาะสมกับความต้องการของเกษตรกร ตลอดจนประสานงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ซึ่งมีเป้าหมายาที่จะยกระดับผลผลิตในพื้นที่เป้าหมาย 1 ล้านไร่ ให้ได้ 13 ตันต่อไร่ในปี 2552 และ เพิ่มเป็น 15 ตันต่อไร่ในปี 2555

ซึ่งขณะนี้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้มีแผนเร่งขับเคลื่อนโครงการนิคมการเกษตรพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทน รองรับนโยบายปรับโครงสร้างภาคการเกษตร ปี 2551-2552 ซึ่งในส่วนของการจัดตั้ง นิคมการเกษตรอ้อย มีเป้าหมายดำเนินการนำร่องใน 2 พื้นที่ คือ จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 50,000 ไร่ และมุกดาหาร 10,000 ไร่ เกษตรกรประมาณ 3,000 รายแต่ช่วงปีแรกนี้จะเร่งจัดตั้งนิคมฯ อ้อยให้แล้วเสร็จก่อน 20,000 ไร่ นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าสำหรับการจัดตั้งนิคมการเกษตรพืชอาหารและพลังงานทดแทน จังหวัดกำแพงเพชรนั้น กำหนดแผนดำเนินงานเป็น 5 ระยะ ระยะละ 10,000 ไร่ มีพื้นที่เป้าหมายรวม50,000 ไร่ เกษตรกรจำนวน 2,255 ราย ส.ป.ก. สนับสนุนเงินกองทุนปฏิรูปที่ดินฯ ดอกเบี้ยต่ำ

ในด้านการตลาดมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสนับสนุน คือ สมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 , ธ.ก.ส., บริษัท น้ำตาลทรายนครเพชร, บริษัทน้ำตาลทรายกำแพงเพชร เป็นต้น “นิคมการเกษตรอ้อยแห่งนี้ ถือได้ว่าจะเป็นต้นแบบการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต รวมทั้งเพิ่มผลผลิตต่อ ไร่ให้สูงขึ้นขณะที่ใช้พื้นที่ปลูกเท่าเดิม ทั้งยังทำให้วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่เกิดความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ไม่น้อยกว่า 10 วิสาหกิจชุมชน และในระยะยาวน่าจะเป็นแหล่งผลผลิตอ้อยคุณภาพดีป้อนโรงงานน้ำตาล และรองรับอุตสาหกรรมเอทานอล ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ช่วยทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงขึ้นได้” นายสมศักดิ์ กล่าว

ที่มา : www.moac.go.th